ดินแดนอ้วนพี ตอนที่ 13 -

เขียนโดย
: บ.ใบไม้สีเขียว (etabo@yahoo.com)
 

 

 

 

ถนนโคเลสเตอรอลนำพาเหล่าพรรคกระยาจกไปยังเมืองหลวง บัดนี้ พวกเขามองเห็นยอดพระราชวังอืดบวมใหญ่อยู่ลิบๆ แล้ว


"สูจาเลอ ไกลิๆ" ท่านผู้เฒ่าตาขาวตื่นเต้นที่ได้เห็นพระราชวังอันใหญ่โตอยู่ไกลๆ จนต้องร้องว่า ‘สูงจังเลย ไกลลิบๆ’ แล้วท่านผู้เฒ่าก็เดินโขยกขาเล่นเป็นเด็กๆ แซงหน้าโรบิน อู๊ดที่นำขบวนไปทางทิศที่พระราชวังตั้งอยู่


"ซาหนุจาเลอ" ท่านผู้เฒ่าตะโกนออกมาว่า ‘สนุกจังเลย’


และเมื่อทั้งหมดมาถึงประตูเมืองหลวง หน้าประตูมีชาวอ้วนพีจำนวนมากยืนออกันอยู่เต็มไปหมด ตัวอ้วนๆ ของพวกเขาทำให้พื้นที่หน้าประตูเมืองดูแคบลงถนัดตา พี่น้องพรรคกระยาจกเดินเข้าไปสมทบกับพวกเขา


"เรามาขอพบพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้า เรื่องที่ท่านให้ปุ๋ยหมักสูตรพิเศษไปทำการเกษตร แต่ปุ๋ยที่เราได้กลับเป็นปุ๋ยคุณภาพเลว เราต้องการความเป็นธรรม" เสียงของชาวอ้วนพีตัวที่อยู่หน้าสุดตะโกนดังลั่น แล้วพวกที่เหลือทั้งหมดก็ตะโกนขึ้นมาพร้อมๆ กันว่า


"เราต้องการปุ๋ยหมัก … เราต้องการปุ๋ยหมัก …"


สิ้นเสียงชาวอ้วนพีที่เดือดร้อนเรื่องปุ๋ย ก็มีเสียงเรียกร้องความเป็นธรรมอื่นต่อไป


"เรามาจากวินเกี้ยวรับจ้างภาคอีสาน พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าออกคำสั่งให้พวกเรามาขึ้นทะเบียนหมูเกี้ยวรับจ้าง แต่เรามาช้ากว่ากำหนด จึงอยากจะขอร้องให้ท่านเมตตา ให้เราได้ขึ้นทะเบียนด้วย"


และเสียงอื่นๆ มากมายต่อจากนั้นก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง ทุกเสียงก็ดังเซ็งแซ่อยู่เช่นนั้น ไม่มีวี่แววว่าทหารหมูผู้คุมประตูเมืองจะออกมาเปิดประตูแต่อย่างใด


โรบิน อู๊ด มิตรแท้แห่งผู้ยากไร้นิ่งฟังอยู่นาน อยากจะเข้าช่วยเหลือพวกเขา แต่ด้วยภารกิจในการสืบหาตัวจริงของหมาจิ้งจอกตัวนั้น จึงไม่อาจกระโตกกระตากออกไปได้ เพราะจะทำให้ทหารหมูผู้คุมประตูรู้ตัว เขาจึงพาพี่น้องของเขาเดินเลาะกำแพงไปอีกฝั่ง เป็นฝั่งที่ไม่มีประตู


"พี่น้องข้า จงฟัง … ข้าจะกระโดดข้ามกำแพงเข้าไปในเมือง หลังกำแพงด้านนี้เป็นสวนสาธารณะอ้วนพี ข้าสามารถพาพวกเจ้าข้ามไปได้ …" โรบิน อู๊ดอธิบายแผนการของเขา ก่อนจะบอกต่อไปว่า
"… เข้าแถวเรียงหนึ่ง ฮอลลี่จับเอวข้าไว้ ส่วนตัวต่อไปก็จับเอวตัวที่อยู่ข้างหน้า"


พี่น้องทั้งหมดจึงเกาะเอวของกันและกัน (ถ้ามันเรียกว่าเอวอยู่นะ) ภาพที่เห็นดูไม่ต่างอะไรกับเด็กเล่นรถไฟเท่าไหร่นัก


"ท่านผู้เฒ่าตาขาว ท่านมาเล่นรถไฟกับพวกเราเถอะ" โรบิน อู๊ดเรียกท่านผู้เฒ่าที่ยังคงนั่งขุดหลุมทรายในบ่อทรายเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆ
"เล่โระไฟ โห หนุๆๆ ข้าช่อ เล่ไงนะ จะเอเหรอ"
"ท่านผู้เฒ่าพูดว่าอะไรนะ" โรบิน อู๊ดหันไปถามฮอลลี่ อู๊ด
"ข้าไม่แน่ใจนะท่าน แต่เท่าที่ฟังออก ข้าว่า ท่านผู้เฒ่าต้องพูดว่า เล่นรถไฟ หนุกๆๆ ข้าชอบ เล่นยังไงนะ จับเอวเหรอ" ฮอลลี่ อู๊ดตอบด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจนัก
"มาจับเอวข้าดีกว่า ท่านผู้เฒ่า" โรบิน อู๊ดบอกยิ้มๆ กับท่านผู้เฒ่า แล้วท่านผู้เฒ่าก็วิ่งมาจับเอวเขา โดยมีฮอลลี่ อู๊ดจับเอวท่านผู้เฒ่าอีกที
"จับดีๆ นะท่านผู้เฒ่า เราจะไปกันแล้ว"


สิ้นเสียง โรบิน อู๊ดอุ้มเจ้าตัวเล็กไว้ที่ซอกแขน ย่อเข่าลงข้างหนึ่ง กำมือชูขึ้นข้างหนึ่ง ส่วนข้างที่อุ้มเจ้าตัวเล็กก็กำไว้เช่นกัน แต่ยกขนานไปกับพื้น คลื่นอากาศรอบๆ ตัวเขาเกิดการสั่นไหวเป็นระลอกคลื่น คล้ายวงน้ำที่เกิดจากการที่หินตกลงไปในน้ำ จากหนึ่ง เป็นสองคลื่น เป็นสาม เป็นสี่ เป็นห้า เป็น … จนกระทั่งไม่สามารถนับทัน โรบิน อู๊ดจึงกระโดดขึ้นไปในอากาศ ผู้เฒ่าตาขาวร้องลั่นด้วยความสนุกสนาน เจ้าตัวเล็กเห่าด้วยความตื่นกลัว และรถไฟทั้งขบวนก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อนจะตกลงมาบนพื้นหญ้าอันอ่อนนุ่มของสวนอ้วนพี


"โระไฟลอฟ้า เรม่าๆ แต่ส้าไปหน่อ" ท่านผู้เฒ่าตาขาวจับบทวิจารณ์
"รถไฟลอยฟ้า เร็วมากๆ แต่สั้นไปหน่อย" ฮอลลี่ อู๊ดรู้หน้าที่
"ขอบใจมาก ฮอลลี่ เอาล่ะ เดี๋ยวเราจะไปบ้านของแจมมี่ อู๊ดกัน เธอสามารถช่วยเราได้" โรบิน อู๊ดบอกกับพี่น้องของตน ไม่มีใครเห็นแววตาแห่งความคิดถึงของประมุข

"พี่โรบิน" แจมมี่ อู๊ดร้องเรียกอย่างดีใจ ก่อนจะวิ่งออกจากประตูบ้านไปกอดโรบิน อู๊ด ซึ่งก็ยังเป็นท่าเดิม คือทั้งสองยืนเกาะไหล่กัน
"ข้าเป็นห่วงพี่มากเลยรู้มั้ย ยี่สิบวันมานี้ ข้านอนไม่หลับเลย ดูตาข้าสิ อย่างกับมาจากดินแดนขอบตาดำของพวกหมีแพนด้า" น้ำเสียงของแจมมี่ อู๊ดสั่นเครือเหมือนกับจะร้องไห้ออกมาด้วยความปีติ
"คารวะท่านประมุขหญิง" ฮอลลี่ อู๊ดทำความเคารพแจมมี่ อู๊ด พี่น้องทั้งหมดจึงทำความเคารพตาม ทำให้แจมมี่ อู๊ดต้องผละออกจากอ้อมกอดของโรบิน อู๊ดด้วยความเขินอาย
"เอ่อ … เข้าไปในบ้านกันก่อนดีกว่า" เธอเชื้อเชิญแก้เขิน


เมื่อเข้าไปในบ้านแล้ว โรบิน อู๊ดก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้แจมมี่ อู๊ดฟัง เธอดีใจมากที่ได้รู้ว่าโรบิน อู๊ดที่ตนรักได้เป็นถึงประมุขพรรคกระยาจก เธอหยิบไม้เท้าตีสุกรสีแดงทับทิมขึ้นมาชื่นชม


"ข้าเคยคิดจะใช้ตำแหน่งรองธิดาอ้วนพีที่ข้าได้รับ ไปช่วยเหลือชุมชนหมูเคยรวยที่อยู่ทั่วดินแดนอ้วนพี แต่ข้าก็รักเด็กเกินกว่าจะปล่อยให้เด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่ที่เรียกว่า … ว่า … เอ่อ … เด็กกำพร้า … ใช่ เด็กกำพร้า ข้าปล่อยให้พวกเขาลำบากไม่ได้ เพราะยังไงซะ พวกเขาก็ไม่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ ในขณะที่พวกท่านสามารถช่วยเหลือตัวท่านเองได้" ความรักเด็กของแจมมี่ อู๊ดยังคงปรากฏอยู่เหมือนเดิม
"ท่านประมุขหญิงมีวิจารณญาณล้ำเลิศนัก พวกเราขอนับถือ" พี่น้องพรรคกระยาจกกล่าวชื่นชมแจมมี่ อู๊ด

คืนนั้น เมื่อแจมมี่ อู๊ด และพี่น้องพรรคกระยาจกหลับหมดแล้ว จอมโจรอ้วนพีก็แอบหนีออกมาจากบ้าน เขาตั้งใจว่าจะไปสืบหาข้อมูลเพียงตัวเดียว จึงไม่ได้บอกใคร เพราะคิดว่าพวกเขาต้องขอติดตามไปด้วยแน่


เขาจึงออกจากบ้าน เดินไปตามถนนน้อยใหญ่ภายในเมือง โคมไฟหน้าบ้านของชาวเมืองหลวงบ้างดับไปแล้ว ที่เหลือก็ยังคงส่องแสงริบหรี่ สายลมยามราตรีพัดโชย เป็นลมของฤดูร้อนที่ยังคงร้อนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืน


เมื่อถึงกำแพงพระราชวังอืดบวมใหญ่ …


"แบ๊กๆๆ" เสียงนั้นฟังดูคุ้นเคย
"เจ้าตัวเล็ก" โรบิน อู๊ดรีบวิ่งไปหาเจ้าตัวเล็ก แล้วปิดปากของมันไว้ กลัวว่าทหารหมูในวังจะแตกตื่น ใครก็รู้ว่าในตอนกลางคืน แม้เสียงเพียงแผ่วเบา ก็ดังไปไกลกว่าที่คิดไว้มาก
"เจ้ามาได้ยังไงเนี่ย ยุ่งจริงนะเรา" เขาบ่นกับเจ้าตัวเล็ก แล้วจับมันใส่ไว้ในถุงก๊อบแก๊บสีดำใบเดิมใบนั้น แต่ไม่ได้มัดปากถุง


โรบิน อู๊ดย่อเข่าลงข้างหนึ่งอีกครั้ง มันเป็นท่าที่เขาทำเพื่อรวบรวมพลังในการกระโดดสูง แบบเดียวกับที่เขาใช้กระโดดข้ามกำแพงคฤหาสน์เสือน้อยตอนบุกปล้นบ้านกำนันไทเกอร์ อู๊ด และข้ามกำแพงเมืองเมื่อตอนกลางวัน


แต่ยังไม่ทันที่เขาจะกระโดด ตาข่ายหนึ่งก็ถูกเหวี่ยงลงมา ร่างของเขาอยู่ในตาข่ายนั้น


"คิดล่ะสิว่าลูกไม้เดิมๆ ที่เคยทำมาจะได้ผลอีก ข้าสั่งทหารหมูให้เตรียมตาข่ายรอเจ้าอยู่หลายวันแล้ว โรบิน อู๊ด คราวนี้เจ้าไม่รอดแน่" เสียงไมตี้ อู๊ดดังขึ้นจากขอบกำแพง


โรบิน อู๊ดยังดูสงบ เยือกเย็น คิดว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไรดี ด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่ไมตี้ อู๊ดจะลงมาจากขอบกำแพง เขารีบถอดสร้อยรูปหมูนั่งยองๆ ที่แจมมี่ อู๊ดให้เขามา สวมไว้ที่คอเจ้าตัวเล็ก แล้วปล่อยมันไป


"ไปหาแจมมี่นะ เจ้าตัวเล็ก รีบไปสิ … ไป" โรบิน อู๊ดทำเสียงดุ เจ้าตัวเล็กหันมามองเขาก่อนจะวิ่งหนีไป
"เจ้าบ่นอะไร อย่าดิ้นรนให้ยากเลย เจ้าไม่มีทางหลุดออกไปตาข่ายได้ง่ายๆ หรอก สุดท้ายเจ้าก็เป็นแค่หมูในอวย" ไมตี้ อู๊ดยังคงถากถางไม่เลิก ก่อนจะสั่งการออกไปว่า
"ทหารหมู ปลดอาวุธ และจับมันไปขัง รอการลงทัณฑ์จากพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้า"

 

 

 
 
   

Copyright © 2004 SSSNS Universe

Hit Counter